ความเป็นมา (Story)
เนื่องจากกระแสความนิยมชานมไข่มุกในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ปี
พ.ศ. 2553-2554
มีการเติบโตของธุรกิจชานมไข่มุกในประเทศไทยอย่างแพร่หลายสามารถสังเกตได้จาก
ตามห้างสรรพสินค้าและซูเปอร์มาร์เกตเริ่มมีแบรนด์ชานมไข่มุกในตลาดอยู่มากขึ้นเรื่อยๆ
อีกทั้งการขยายตัวในตลาดของธุรกิจนี้นั้นชี้ให้เห็นว่า ชานมไข่มุกเริ่มเข้ามาแทนที่เครื่องดื่มในชีวิตประจำวันของคนไทยมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่ง เป็นตัวบ่งบอกว่ากำลังจะเป็นยุคทองของธุรกิจชานมไข่มุก
และมีความเป็นไปได้มากว่าจะเป็นเครื่องดื่มคู่บ้านคู่เมืองของคนไทยต่อไปอีกนาน
แต่ธุรกิจนี้เริ่มเข้ามาเพียงไม่กี่รายในตลาด ทำให้ในช่วงแรกของธุรกิจนี้นั้นผู้ค้ารายแรกๆจึงได้กำไรส่วนเกินในตลาดเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้เกิดการแข่งขันขึ้นมาในตลาดเพิ่มสูงขึ้นตามขึ้นมาเป็นจำนวนมากด้วยเช่นกัน
หลายหลายแบรนด์ต่างๆเข้ามาร่วมแข่งขันในตลาดเพื่อแย่งชิงฐานลูกค้าทั้งใหม่ทั้งเก่าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งการแข่งขันนั้นส่งผลให้ราคาชานมไข่มุกมีราคาที่ลดลงมาอยู่พอสมควรอีกทั้งมีการปิดกิจการในหลายๆแบรนด์ตามมา ซึ่งมีเพียงไม่กี่แบรนด์ในตลาดที่สามารถอยู่ต่อไปได้ โดยเหตุผลหลักต่างๆในเรื่องของสินค้าชานมไข่มุกเริ่มมีตามขึ้นมาไม่ว่าจะเป็น รสชาติ(Prodcut) บรรจุภัณฑ์(การSealแก้ว,ลายแก้ว) รูปแบบการผลิตและการขาย(การShake) ซึ่งมีความแตกต่างกันในแต่ละแบรนด์อย่างเห็นได้ชัดในช่วงหลัง2ปีที่ผ่านมา เป็นการแสดงให้เห็นว่าธุรกิจชานมไข่มุกไม่ใช่ธุรกิจที่เป็นกระแส(Trend)อย่างที่คนอื่นเข้าใจกันเพราะภายในตัวสินค้านั้นลูกค้าสามารถแยกความแตกต่างกันของตัวสินค้าได้
อย่างไรก็ตามแบรนด์ต่างๆที่ยังคงคุณภาพ มาตรฐานของสินค้าไว้ให้ลูกค้าได้
ก็จะยังคงอยู่รอดต่อไป ซึ่งเหตุผลหลักของลูกค้าที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของชานมไข่มุกคือ
กลุ่มนักศึกษา นักเรียน วัยรุ่น คนวัยทำงานช่วงต้นถึงกลาง
ต่างบอกกันว่ารสชาติของทั้งชาและไข่มุก
มีนัยในการซื้อติดต่อกันอีกครั้งหรือซื้อบ่อยขึ้นนั่นเอง
ซึ่งทางร้านโซ้ยชาก็เคยเป็นลูกค้าและชื่นชอบมาก่อนจึงทำให้ได้มีการทดลองและปรับปรุงสูตรให้มีความกลมกล่อมของรสชาติและราคาให้ผู้คนทุกวัยสามารถเข้าถึงสินค้าและได้มีโอกาสได้กินชาโดยใช้ใบชาแท้อีกด้วย ซึ่งรสชาติที่โดนใจของร้านได้รับการคอมเม้นจากบรรดาลูกค้าต่างๆว่ารสชาติทั้งชากับไข่มุกของร้านโซ้ยชามีความอร่อยเป็นเอกลักษ์อีกทั้งราคาไม่แพงสามารถโซ้ยได้ทุกวันอีกด้วย ทำให้เริ่มมีผู้ที่ชื่นชอบขอซื้อแฟรนไชน์ต่อ
ซึ่งในช่วงแรกนั้นทางร้านไม่ได้มีการรับแฟรนไชน์เนื่องจากยังไม่มีความพร้อมและเพิ่งเริ่มต้นกิจการ ซึ่งในภายหลังมีคนจำนวนมากอยากเปิดเหมือนเราบ้าง ทำให้ทางร้านได้จัดแฟรนไชน์ขึ้นมาซึ่งก็จะรับอย่างจำกัดไม่รับมากมายจนไม่สามารถดูแลเรื่องคุณภาพไหว
จึงเรียนมาให้ทางลูกค้าแฟนไชน์ทราบโดยทั่วกันด้วยครับ
จากข้อสรุปดังกล่าวข้างต้น
ผมจึงเริ่มหาวิธีการทำชาที่ได้รสชาติใหม่ที่ถูกใจผู้บริโภคในกลุ่มเป้าหมายและคนชอบกินชา โดยทางร้านสามารถค้นคิด
ชานมไข่มุกสด อร่อย ปลอดผงชาหรือผงกลิ่นชา เป็นใบชาสด 100% อีกทั้งราคาไม่แพง สามารถดื่มชาโซ้ยชาได้ทุกวัย ไข่มุกทำวันต่อวันสดใหม่
นุ่มเหนียว นึบ หวานข้างใน หอมกลิ่นนม
โดยคาดหวังไว้ว่าอยากให้ผู้บริโภคได้บริโภคของที่มีคุณภาพราคาไม่แพง
ผมมีความชอบและตั้งใจจริงที่จะนำเสนอมาก จึงตั้งสโลแกนว่า
“โซ้ยชา อย่างมีความสุขไปกับเรา"